หัวข้อ
1.กำเนิดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
2.ประวัติโดยย่อของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
3.ความหมายและความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
4.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
5.กระแสโลกาภิวัตน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6.บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มีต่อสังคม
กำเนิดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
มนุษย์เป็นสัตย์สังคมที่มีการตั้งถิ่นฐานอยู่กันเป็นหมู่เหล่าตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว หน่วยเล็กที่สุดของสังคมคือครอบครัวขนาดใหญ่ขึ้นมาเป็นหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จนในที่สุดกลายเป็นเมือง และเป็นประเทศตามลำดับ มนุษย์แต่ละหมู่เหล่าได้มีการติดต่อสื่อสารกัน เพื่อแปลกเปลี่ยน อาหาร สิ่งของเครื่องใช้ ยารักษาโรค เป็นต้น
ประวัติโดยย่อของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
จากที่กล่าวมาแล้วว่า
เทคโนโลยีสารสนเทศเกิดการจากการรวมกันของเทคโนโลยี 2 ด้าน คือ เทคโนโลยีโทรคมนาคมกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ซึ่งแต่ละด้านมีประวัติหรือการพัฒนาการ ดังนี้
1. เทคโนโลยีโทรคมนาคม
โทรคมนาคม เริ่มจากการประดิษฐ์โทรเลขของ แซมวล มอร์ส(SamualMorse) ในปี พ.ศ.2380 นับว่าเป็นครั้งแรกที่ข่าวสารถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งไปตามสายเป็นระยะทางไกลๆได้โดยอาศัยวิธีการเข้ารหัสเป็นตัวอักษร
เป็นรหัสอื่นที่ประกอบด้วย(.)และขีด(-)
เป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน ต่อมาโทรเลขก็ได้ถูกนำมาใช้งานในเชิงการค้าตั้งแต่ พ.ศ.2387เป็นต้นมา และในปี พ.ศ.2401 ได้มีการวางสายเคเบิลใต้มหาสมุทรแอตแลนติก
ทำให้เกิดการสื่อสารข้ามทวีประหว่างทวีปอเมริกากับทวีปยุโรปขึ้นเป็นครั้งแรก
2. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้เป็นผลมาจากการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือในการคำนวณซึ่งมีวิวัฒนาการนานมาแล้วเริ่มจากเครื่องมือในการคำนวณเครื่องแรกคือ
“ลูกคิด” ที่สร้างขึ้นในประเทศจีน เมือประมาณ 2,000-3,000 ปีมาแล้ว จนกระทั่งในปี พ.ศ.2376 นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ
ชื่อ ชาร์ล แบบเบจ ได้ประดิษฐ์เครื่องวิเคราะห์เครื่องนี้แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนเก็บข้อมูล
ส่วนคำนวณ และ ส่วนควบคุม
และให้แบ่งยุคควบคุมคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง ได้เป็น 5 ยุค คือ
ยุคที่1 พ.ศ.2489-2501 เป็นการประดิษฐ์เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มิใช่เครื่องคำนวณ
ยุคที่2 พ.ศ.2502-2506 มีการนำทรานซิสเตอร์ มาใช้จึงทำให้เครื่องมีขนาดเล็กลง
ยุคที่3 พ.ศ.2507-2512 คอมพิวเตอร์เครื่องนี้เริ่มต้นภายหลังจากการใช้ทรานซิสเตอร์ได้เพียง5ปี
ยุคที่4 พ.ศ.2513-2532 เป็นยุคที่นำสารกึ่งตัวนำมาสร้างเป็นวงจรรวมความจุสูงมาก
ยุคที่5 พ.ศ.2533-ปัจจุบัน ในยุคนี้มุ้งเน้นการพัฒนาความสามารถในการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์
ยุคที่2 พ.ศ.2502-2506 มีการนำทรานซิสเตอร์ มาใช้จึงทำให้เครื่องมีขนาดเล็กลง
ยุคที่3 พ.ศ.2507-2512 คอมพิวเตอร์เครื่องนี้เริ่มต้นภายหลังจากการใช้ทรานซิสเตอร์ได้เพียง5ปี
ยุคที่4 พ.ศ.2513-2532 เป็นยุคที่นำสารกึ่งตัวนำมาสร้างเป็นวงจรรวมความจุสูงมาก
ยุคที่5 พ.ศ.2533-ปัจจุบัน ในยุคนี้มุ้งเน้นการพัฒนาความสามารถในการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์
ลักษณะของระบบปัญญาประดิษฐ์
มี 4 ลักษณะ ได้แก่
1. ระบบหุ่นยนต์หรือแขนกล
2.ระบบประมวลภาษาพูด
3.ระบบจำรู้จำเสียงพูด
4.ระบบผู้เชี่ยวชาญ
1. ระบบหุ่นยนต์หรือแขนกล
2.ระบบประมวลภาษาพูด
3.ระบบจำรู้จำเสียงพูด
4.ระบบผู้เชี่ยวชาญ
3.ความหมายและความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง
ความรู้ในผลิตภัณฑ์ หรือในกระบวนการดําเนินการใดๆ
ที่อาศัยเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์
การติดต่อสื่อสาร การรวบรวมและการนําข้อมูลมาใช้อย่างทันการ
เพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพทั้งทางด้านการผลิต การบริการ การบริหาร
และการดําเนินงาน
รวมทั้งเพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ซึ่งจะส่งผลต่อความได้เปรียบทางเศรษฐกิจ การค้า
และการพัฒนาด้านคุณภาพชีวิตและคุณภาพของประชาชนในสังคม
ทัศนะเกี่ยวกับเทคโนโลยี แบ่งออกเป็น 2 ทัศนะคือ
1. ทัศนะด้านวิทยาศาสตร์กายภาพ
มุ้งเน้นการพัฒนาวัสดุอุปกรณ์ให้เจริญก้าวหน้าด้วยความรู้ด้าน
วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์
เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการ ดำเนินงานสาขาต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
2. ทัศนะด้านพฤติกรรมศาสตร์ เป็นเทคโนโลยีที่มุ้งเน้นกระบวนการคิดและการทำงานอย่างเป็นระบบ
2. ทัศนะด้านพฤติกรรมศาสตร์ เป็นเทคโนโลยีที่มุ้งเน้นกระบวนการคิดและการทำงานอย่างเป็นระบบ
สารสนเทศ
ปัจจุบันคำว่าสารสนเทศ ได้เข้ามามีบทบาทกับวงการต่างๆ
ในสังคมกว้างขวาง และมักนิยมใช้ข้อมูลนั้น สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่ได้รับตีความ จำแนกแจกแจง
จัดหมวดหมู่
หรือประมวลผลจนมีสาระอยู่ในตัวมันเอง สามารถสื่อความหมายให้เกิดความเข้าใจกับผู้ที่ต้องการใช้ข้อมูลนั้น
เทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง ความรู้ในผลิตภัณฑ์หรือในกระบวนการดำเนินงานใดๆ ที่ได้อาศัยเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ การติดต่อสื่อสาร การรวบรวมและการนำข้อมูลมาใช้ทันการเพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพ ทั้งด้านการการผลิต การบริการ การบริหาร และการดำเนินการ รวมทั้งเพื่อการศึกษาและการเรียนรู้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ปัจจุบันกระแสโลกาภิวัตน์แผ่อิทธิพลไปสู่สังคม โลกทำให้ข้อมูลข่าวสารสามารถเชื่อมโยงกันแบบเครือข่ายหรือใยแมงมุมได้ทั่วทุกมุมโลกโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสื่อสาร เช่น โทรศัพท์ ดาวเทียม ส้นใยแก้วนำแสง ไมโครเวฟผสมผสานกันเพื่อให้สามารถสื่อสารกันได้ สะดวกรวดเร็ว มากขึ้นเราจึงเรียกกระบวนการนี้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างแพร่หลายเป็นที่สนใจของคนทุกมุมโลกทุกสาขาสามารถนำมาใช้ในการดำเนินงานและชีวิตประจำวันได้อย่างกว้างขวาง และยังมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆเป็นอย่างมาก เช่น ด้านวิชาการ ด้านการดำรงชีวิตประจำวัน การดำเนินธุรกิจ ด้านการติดต่อสื่อสาร ด้านผลผลิต4.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ในสังคมปัจจุบันไม่ว่าใครจะอยู่ที่ใด
แม้ในเมืองหรือชนบทก็ตาม
ย่อมมีการติดต่อสื่อสารกับบุคคลหรือสังคมอื่นอยู่เสมอไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็น หรือการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร
ในชีวิตประจำวันด้วยสื่อต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง โทรศัพท์ โทรสาร
ล้วนเป็นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทั้งสิ้น
5.กระแสโลกาภิวัฒน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระแสโลกาภิวัฒน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในปัจจุบันช่วยให้ความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของคนเรา
สะดวกสบายมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับยุคก่อน
การเดินทางและติดต่อสื่อสารระหว่างกันสามารถทำได้ง่ายขึ้น
มีการนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งานในทุกสาขาอาชีพ เช่น การสื่อสาร การธนาคาร
วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การแพทย์ เป็นต้น
6.บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มีต่อสังคม
ในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีบทบาทที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคมในปัจจุบันในหลายด้าน ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
-
ช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการสื่อสารและรวดเร็วขึ้น
- ช่วยทำให้วิทยากการต่างๆ
เจริญก้าวหน้าและทันสมัยอย่างรวดเร็ว
-
การรับรู้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารของโลกเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว
- สนับสนุนการทำงานและกระบวนการผลิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น